บุญข้าวสาก ปี 63

 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10

ทำห่อข้าวสากในต่างแดน









ตึ่ง ตึง ตึ้ง.. ตึ่ง ตึง ตึ้ง / ตึ่ง ตึง ตึ้ง.. ตึ่ง ตึง ตึ้ง...

"ฮะโหลแม่  ว่าจังได๋" 

เสียงสาวปูถามแม่หลังจากที่กดรับสายวิดีโอคอลผ่านไลน์ เห็นแม่โทรมาตอนนี้รู้เลยว่าแม่ต้องมาย้ำเรื่องทำห่อข้าวสากแน่ ๆ เลย  แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าวันนี้ทำไมแม่โทรมาหาเราได้เอง  เพราะปรกติเราจะโทรหา  สาเหตุก็เพราะว่าแม่โทรออกไม่เป็นรับเป็นอย่างเดียว ฮ่า...ฮ่า… โซแคลสซิคมว้ากกก  แต่ก็เป็นเรื่องจริง หลาย ๆ คนคงเข้าใจ  เพราะญาติผู้ใหญ่หลายคนใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ของโทรศัพท์รุ่นใหม่ไม่เป็น  รับเป็นอย่างเดียวเหมือนแม่ปู

(หมายเหตุ : ว่าจังได๋ เป็นภาษาอีสาน แปลว่า ว่ายังไง หรือ ว่าอย่างไร )



"กะอยู่จังสิหล่ะ   เป็นจังได๋ทางนั่น  ฝนตกบ่" คำถามของแม่ที่เราจะได้ยินทุกครั้งที่โทรคุยกัน  ถ้าพูดถึงความหมายในประโยคที่แม่ตอบมา  ก็คงจะหมายถึง "แม่ก็อยู่ตามอัตภาพ  ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ฝนตกบ่ ก็คือ ฝนตกไหม"  ประโยคที่ว่า "ฝนตกไหม" นี้น่าสนใจมากค่ะ  เพราะด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการอยู่การกิน  หล่อหลอมเข้ามาในตัวในตนของแม่รวมถึงตัวปูด้วย  ในฐานะที่เราเกิดมาในครอบครัวชาวนาทำให้เวลาเราคุยกัน  คำพูดบางประโยคถึงไม่ได้สาธยายกันมาก  แต่ลึก ๆ แล้วเราสองคนแม่ลูก  เข้าใจกันดีว่า "ฝน" ในหน้านานั้นสำคัญมากขนาดไหน  เป็นเรื่องปรกติไปแล้วที่แม่จะใช้คำถามนี้กับปูตลอดในหน้านา  หรือในช่วงฤดูฝน  ฤดูแห่งการทำนาของคนอีสาน  ที่ยังยึดถืออาชีพทำนาเป็นอาชีพหลัก  ถึงแม้ราคาข้าวจะดีดตัวสูงขึ้น  หรือจะดิ่งลงต่ำขนาดไหน  การทำนาก็ยังเป็นอาชีพหลักของบางครอบครัวอยู่ดี  


อย่างพ่อแม่ปูก็ยังคงยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพหลัก  แม่พูดกับปูบ่อย ๆ ว่าถ้าไม่ทำนาก็ไม่รู้จะทำอะไร แม่เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่แม่จำความได้ "พ่อตู้กับแม่ตู้" คอยบอกคอยสอนอยู่ตลอดว่า  อย่าให้ข้าวเปลือกหมดเล้า  อย่าให้ข้าวสารหมดไห  ประโยคนี้แม่ก็มาบอกกับลูก ๆ ต่อ  และก็ยังมีคำสอนอีกหลายอย่างที่แม่คอยบอกประจำ  และหนึ่งในนั้นคือ "การแต่งห่อข้าวสาก" และที่แม่ตั้งใจโทรหาเราในครั้งนี้คือเตือนให้ทำห่อข้าวสากไปวางไว้ตามป่าใกล้บ้าน  เพื่อให้บรรพบุรุษที่ล้มหายตายจากไปแล้วได้มารับข้าวสากที่เราเตรียมไว้ให้นั่นเอง  ตลอดจนวิญญาณต่าง ๆ ที่อยู่ในละแวกบ้านจะได้รับบุญครั้งนี้ด้วย


(หมายเหตุ : 1. พ่อตู้ เป็นภาษาอีสาน แปลว่า ตา 2. แม่ตู้ แปลว่า ยาย )


"ข้าวสากเด้อ ข้าวสากเด้อ  อย่าลืมเด้อ  บุญใด๋สิลืมกะลืมได้  แต่บุญข้าวสากห้ามลืม พ่อตู้แม่ตาเฮาเพิ่นถ้าอยู่  แต่มะลางพ่อมะลางแม่เพิ่นบอกมา  ให้ลูกแต่งห่อข้าวสาก เอาไปหย่ายในป่าแถวบ้าน  มีบ่ป่าถ้ามีกะแต่งแล้วไปหาหย่ายเด้อ" เสียงแม่ปูบอกพลางย้ำถึงความสำคัญ  ในทุก ๆ ปีแม่ก็จะบอกแบบนี้  จนปูจำได้ขึ้นใจ  


(หมายเหตุ : 1. มะลางพ่อมะลางแม่ เป็นภาษาอีสานแปลว่า สมัยพ่อสมัยแม่ หรือจะแปลเป็นความหมายโดยนัย คือ สมัยพรรพบุรุษ 2. หย่าย  เป็นภาษาอีสาน  แปลว่า  กระจาย)



"มื้ออื่นแมนบ่แม่" ปูถามย้ำเพื่อความมั่นใจ  เพราะบุญข้าวสากในแต่ละปีไม่ได้ตรงกัน ขึ้นอยู่กับว่าวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ตรงกับวันอะไรก็วันนั้นแหละเป็นวันบุญข้าวสาก

(หมายเหตุ : มื้ออื่น เป็นภาษาอีสาน แปลว่า พรุ่งนี้ )



"แมน..ของหวานของคาว  คำหมากกอกยามีบ่  ข้าวดำข้าวแดง พยายามหาใส่" เสียงแม่ย้ำถึงเครื่องข้าวสากว่าต้องใส่อะไรไปบ้าง  แอบมีความหวังว่าลูกต้องทำ ฮ่า...ฮ่า…


(หมายเหตุ : 1. คำหมาก เป็นภาษาอีสาน หมายถึง ชุดเสี้ยนหมากสำหรับเคี้ยว ที่เตรียมไว้เป็นคำ ๆ 2. กอกยา หมายถึง มวนบุหรี่ 3. ข้าวดำ คือ ข้าวที่ได้จากการนำข้าวเหนียวปั้นเป็นคำ  นำไปถูกับก้นหม้อที่มีสีดำจากการใช้งาน  4. ข้าวแดง  คือ ข้าวที่ได้จากการนำข้าวเหนียวปั้นเป็นคำนำไปผสมกับปูนแดง)



"เดี๋ยวหนูไปหาเบิ่งเด้อมีหยังแนแม่  สิได้แต่งไปหย่าย"  ปูก็บอกแม่ไป  พลางก็มโนเครื่องข้าวสากที่บ้าน  ว่าพอจะมีอะไรใส่ได้บ้าง


"เอ้าสำนี่ล่ะสั่น  แม่สิบอกว่าคันโทรมามื้ออื่นบ่อยู่เฮียนเด้อ  วันศีลแม่สิเข้าวัด"  ทุกวันพระช่วงเข้าพรรษาแม่ปูจะไปถือศีลปฏิบัติธรรมที่วัดโนนโพธิ์  ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน  พร้อมกับแม่ขาวหลาย ๆ คนในหมู่บ้าน  และทุกครั้งก่อนแม่จะไปแม่ก็จะบอกให้รู้ก่อนทุกครั้ง


หลังจากที่วางสายแม่เสร็จ  ปูก็เริ่มนึกภาพห่อข้าวสากที่จะทำว่าจะจัดยังไง  มองเห็นจานพลาสติกก็น่าจะพอดีใส่ของคาวของหวานได้  แต่มานึกอีกทีจานพลาสติกก็ย่อยสลายไม่ได้ แถมเอาไปวางไว้ตามป่าตามรั้ว  เวลามองไปคงขาวโพลนไม่เข้ากับธรรมชาติที่สวยงามแน่ ๆ ขัดหูขัดตาว่างั้น ฮ่า..ฮ่า...นึกไปนึกมาใบของต้นมะเดื่อฝรั่งที่เราเอามารองผักบ่อย ๆ ก็น่าจะใช้ได้นี่นา  พอนึกขึ้นได้ก็รีบบึ่งไปที่ต้นมะเดื่อฝรั่งบ้านป้าข้าง ๆ เลยค่ะ เก็บมาได้ 6 - 7 ใบ  ก็จัดแจงล้างทำความสะอาดตัดเอาก้านออกจะได้ไม่เกะกะ  หลังจากนั้นก็เช็ดพอหมาด ๆ เพราะรีบต้องไปทำธุระต่อ  พอจับใบมะเดื่อฝรั่งมาวางเรียงกันก็ยังไม่พอใจ  สาวปูเริ่มเยอะกับตัวเอง ฮ่า..ฮ่า.. คือกลัวว่าถือ ๆ ไปแล้วเครื่องข้าวสากจะหล่นไง  ก็เลยค้นหาไม้มาเสียบใบมะเดื่อฝรั่งที่วางซ้อนกันไว้แล้ว   เสียบไปเสียบมาฐานเริ่มมั่นคง  ปูก็เริ่มจัดเครื่องข้าวสากใส่ในถาดใบมะเดื่อฝรั่งเลยจ้า


เครื่องข้าวสากที่ปูใส่ในถาดใบมะเดื่อฝรั่งมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ




  • ขนมหวาน M & M

  • ขนมปังกรอบรสเค็ม

  • ไข่ต้ม

  • พริกป่น

  • ข้าวคั่ว

  • เนื้อม้าอบแห้ง

  • ข้าวสวยโรยขมิ้น

  • ช็อกโกแลต


พอได้เครื่องครบ (ตามอัตภาพซึ่งจริง ๆ ต้องมีเครื่องเยอะกว่านี้ค่ะ) ปูก็เดินดุ่ม ๆ ลงไปในสวนที่บ้่านจนถึงริมรั้ว  และมุดกิ่งไม้เข้าไปหาที่เหมาะ ๆ พอจะวางถาดข้าวสากไว้ได้ตามรูปค่ะ














สำหรับคนอีสานนั้น วันพระขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 จะถือเป็นบุญข้าวสาก ซึ่งประเพณีในทุก ๆ ภาคก็มีเช่นกัน  แต่จะเรียกชื่อแตกต่างกันไป 


  • ภาคเหนือเรียกว่า  "บุญสลากภัตร"

  • ภาคอีสานเรียกว่า  "บุญข้าวสาก"

  • ภาคกลางเรียกว่า  "บุญข้าวสารท"

  • ภาคใต้เรียกว่า  "บุญชิงเปรต"


วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละพื้นที่  มีที่มาที่ไปและมีคุณค่าทางการศึกษามาก  เพราะทำให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของท้องที่นั้น ๆ ด้วย  อย่างบ้านเรามีงานบุญข้าวสาก  ที่อิตาลีก็มีวันของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วเช่นกันค่ะ ที่อิตาลีจะเรียกว่า  Giorno dei morti วันนี้ที่อิตาลีก็จะนำดอกไม้ไปประดับและนำเทียนไปจุดที่สุสานให้กับบรรพบุรุษของพวกเขา  เพื่อเป็นการระลึกถึงบุคคลในครอบครัวที่ล่วงลับไปแล้วค่ะ  ส่วนประเพณีของไทยเราก็นำเครื่องข้าวสากเป็นสัญลักษณ์นั่นเองค่ะ









ในส่วนของปูถึงแม้จะอยู่ไกลบ้าน  วัฒนธรรมใดที่พอจะสืบต่อจากบรรพบุรุษได้ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ค่ะ ถึงแม้ว่าบางสิ่งบางอย่างที่ทำแล้วจะออกมาไม่ 100 %  เหมือนที่อยู่เมืองไทยเราก็ตามที  อย่างห่อข้าวสากที่ปูเตรียมก็แตกต่างจากห่อข้าวสากของแม่ที่อยู่เมืองไทย  แต่อย่างน้อยการได้เข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของวัฒนธรรมประเพณีนั้นมีคุณค่ายิ่งกว่าค่ะ  เพราะนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองแล้ว  ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีของไทยเราด้วยค่ะ

    

สำหรับวันนี้ปูก็ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมบล็อกอีสานพันทางนะคะ  หวังว่าบทความเรื่องบุญข้าวสากต่างแดน  จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย  โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในต่างแดนเหมือนกับปู  เผื่อปีหน้าฟ้าใหม่อยากทำห่อข้าวสากบ้าง  จะได้เตรียมตัวไว้ค่ะ  สำหรับวันนี้ปูต้องขอลาทุกคนไปก่อนนะคะ  แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปค่ะ  ขอบคุณและสวัสดีค่ะ


ติดตามผลงานอื่น ๆ ของผู้เขียนได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้คะ


📱 ช่องทางการติดต่อ 📲


Line: Siriwanna9

Facebook: Siriwanna W. Pavese



📑 ติดตามผลงานได้ที่ 📑



📝Blockdit 📝



📷 YouTube 📷




ความคิดเห็น

  1. ได้เรียนรู้ไปด้วยเลยดีจังค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากค่ะเจ้ลาล่า มีอะไรเพิ่มเติมได้นะคะ 😍😍🙏🙏

      ลบ
  2. คำตอบ
    1. ขอบคุณปราด้ามากเลยค่ะ ไปทำบุญข้าวสากมาไหมคะ สนุกไหม

      ลบ
  3. เขียนได้จับจิตมากค่ะ ถ่ายทอดความเป็นวัฒนธรรมอีสานได้อย่างดีมาก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยมมาอ่านประเพณีบุญข้าวสากแบบอีสานพันทาง 🙏🙏🙏😍😍😍

      ลบ
  4. อ่านเพลินเลยค่ะ น้องปู ได้รู้จักภาษาอีสานด้วย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากค่ะพี่แหม่ม ที่บ้านมีแบบนี้ไหมคะ

      ลบ
  5. สวัสดีค่ะ หนูชอบบทความของพี่ค่ะ เดี๋ยวหนุย้อนอ่านอีกทีนะคะ คิดถึงค่ะ 😘😘😘😘

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ป๋อมมมมมม คิดถึงอ่ะ สบายดีไหมคะ มา ๆ แวะมาค่ะยินดีต้อนรับนะ

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

Amazon Shopping

บทความที่ได้รับความนิยม