ผู้เฒ่าวัยเกษียณกับเรื่องเล่า Fave
ผู้เฒ่าวัยเกษียณ
กับเรื่องเล่า Fave
(ถั่วปากอ้า)
สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ วันนี้ปูมีเรื่องราวเกี่ยวกับพืชกระกูลถั่วชนิดนึงมาเล่าให้ฟังค่ะ ที่อิตาลีเรียกกันว่า Fave หรือในภาษาอังกฤษ Fava beans จะบอกว่าอยู่อิตาลีมา 10 กว่าปีไม่เคยเอา Fave มาทำกินเลย ก็เห็นนะว่าข้างบ้านเขาปลูกทุกปี แต่ก็ไม่เคยใส่ใจหรือที่บ้านตัวเองไม่ได้ปลูกก็ไม่รู้
เมื่อไม่ใส่ใจเราก็ไม่รู้ใช่ไหมคะว่าต้องทำกินอะไรยังไง จนไม่กี่วันที่ผ่านมาปูพาลูกไปเล่นกับหลาน ๆ ของเพื่อนบ้านมา เขากำลังแกะทำความสะอาดอะไรสักอย่างอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่าคืออะไร เขาเลยบอกว่ามันคือ Fave อ่ะ.. ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว สงสัยถึงคราวต้องรู้จักมันจริง ๆ จัง ๆ สักที ก็เลยนั่งจับเข่าถามเขาซะเลยว่ามันปลูกยังไงดูแลยังไง ที่สำคัญกินยังไง คือไม่เคยเอามาทำกินเลยค่ะ
เพื่อนบ้านของปูคนนี้ชื่อ Giovanni อาศัยอยู่กับ Anna ซึ่งเป็นภรรยา ทั้งคู่เกษียณจากงานประจำแล้ว ด้วยความชอบธรรมชาติและความเป็นอยู่แบบสมถะ ก็เลยพากันย้ายจากตัวเมืองมาอยู่บ้านนอก ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกันกับที่ปูอยู่ค่ะ นาน ๆ ทีจะมีหลานสองคนมาอยู่เป็นเพื่อน ในช่วงที่โรงเรียนของเด็ก ๆ หยุดระหว่างภาคเรียนและในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ปูก็จะพาลูกไปเล่นกับหลาน ๆ ของ Giovanni และ Anna เป็นประจำและวันนี้ก็เช่นกันค่ะ
Giovanni และ Anna ดูมีสีหน้าดีใจที่ปูถามถึงเรื่อง Fave อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนต่างชาติ แล้วให้ความสนใจอาหารบ้านของเขา และ Giovanni ยังเล่าให้ปูฟังด้วยสีหน้าที่ดูภูมิใจมากว่าในละแวกนี้ ไม่มีใครปลูก Fave แล้วด้วย มีเขาคนเดียวที่ยังคงปลูกเองกินเองอยู่ เพราะว่าต้องใช้เวลาและความอดทนพอสมควร คนรุ่นใหม่เขาก็ประกอบอาชีพอื่นกัน ส่วนคนรุ่นเก่าก็เฒ่าชรากันหมดแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงจะขุดดินรดน้ำพืชผักได้มากนัก นั่นแหละว่าทำไม Giovanni เขาถึงภูมิใจในการที่จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเพาะปลูก Fave ตลอดจนเมนูที่ Anna ภรรยาของเขาทำให้กิน
Giovanni เล่าว่าเขาเริ่มเพาะกล้า Fave ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และก็เป็นหน้าหนาวของอิตาลี เขาบอกว่าช่วงระยะเวลานั้นเมล็ด Fave จะไม่มีการเจริญเติบโตใด ๆ จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ Fave ก็จะเริ่มงอกออกมา ขนาดความสูงก็จะประมาณ 80 ซ.ม. พอถึงเดือนพฤษภาคมก็ออกฝักสีเขียว ตอนนี้ก็สามารถเก็บมารับประทานได้แล้ว แต่จะใส่ในสลัด Giovanni แนะนำว่าถ้าใส่ในสลัดควรปอกเปลือกออกก่อนถึงจะใส่ในสลัดได้ หรือใส่กับสตูเนื้อ, หมูหรือไก่แทน Piselli (ถั่วลันเตา) ได้ค่ะ
ส่วนแบบเก็บเมล็ดแห้งนั้นต้องรอให้ถึงช่วงเดือนกรกฎาคมก่อน Fave ถึงจะแก่และแห้งเต็มที่ ช่วงนี้ก็เข้าหน้าร้อนพอดี สำหรับการทานแบบแห้งนั้น จะต้องนำ Fave ที่แกะทำความสะอาดให้เหลือแต่เมล็ดแล้ว เอาส่วนนี้มาแช่น้ำประมาณ 24 ช.ม. จากนั้นจะต้องลอกเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออกก่อนถึงจะนำไปปรุงเป็นอาหารได้ ส่วนเมนูที่ Anna ชอบทำบ่อย ๆ คือ Minestra หรือซุปนั่นเอง
เล่าถึงตอนนี้ Anna ก็จะเป็นคนเล่าให้ปูฟัง ว่าเธอเอาอะไรใส่ใน Minestra ของเธอบ้าง ส่วนประกอบของเธอก็ไม่มีอะไรมากค่ะ มีกระดูกหมู, มันฝรั่ง, Fave, หอมหัวใหญ่, เกลือ, น้ำมันมะกอกและน้ำเปล่า ฟังดูแล้วไม่น่าจะยุ่งยากมาก ปูคงต้องหาโอกาสลองทำบ้างแล้วค่ะ Giovanni ยังบอกอีกว่า Fave นี้ถือว่าเป็น La carne di contadino ชั้นดีเลย ความหมายก็คือเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีของเกษตรกรเลยล่ะค่ะ
ในระหว่างที่ปูช่วย Anna กับ Giovanni แกะเปลือก Fave อยู่นั้น เด็ก ๆ ก็เล่นกันสนุกสนาน ปูก็ได้ความรู้ลูกก็ไม่เหงาเพราะมีเพื่อนเล่น โชคดีหน่อยที่เราอยู่นอกเมืองไม่วุ่นวายมากนัก หันซ้ายแลขวาก็เป็นต้นไม้ใบหญ้าเขียว ๆ รอบบ้าน มีอากาศบริสุทธิ์ให้หายใจได้เต็มปอด แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ เราก็หาได้รอบตัวเรา
คุณผู้อ่านล่ะคะ มีอะไรน่าสนใจอย่าลืมเอามาแบ่งปันกันนะคะ บางอย่างเรารู้คนอื่นไม่รู้ หรือคนอื่นรู้เราไม่รู้ก็มี เหมือนปูถ้าวันนี้ไม่ได้นั่งคุยกับเพื่อนบ้านเรื่อง Fave จะไม่มีวันรู้เลยว่ามันคือ ถั่วปากอ้า 55555 คือเราไม่เคยสนใจไง ก็เลยไม่ได้ขวนขวายหาความรู้เรื่องนั้น ๆ
เอาล่ะค่ะวันนี้ปูก็โม้มาสักพักแล้วไว้มีโอกาส คุณผู้อ่านก็อย่าลืมแวะเวียนมาเยี่ยม "อีสานพันทาง" อีกนะคะ ไว้ปูจะนำเรื่องราวต่าง ๆ มาแบ่งปันอีกค่ะ วันนี้ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกคนนะคะที่เข้ามาทักทายให้กำลังใจกัน วันนี้ขอบคุณและสวัสดีค่ะ
ติดตามผลงานอื่น ๆ ของปูได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้คะ
📱 ช่องทางการติดต่อ 📲
Line: Siriwanna9
Facebook: Siriwanna W. Pavese
📑 ติดตามผลงานได้ที่ 📑
📝Blockdit 📝
📷 YouTube 📷
ช่อง: อีสานพันทาง
ช่อง: Diary On Tour
อ่านแล้ว อยากไปเที่ยวจังเลยค่ะ ภาพสวยงามมาก น่าอยู่ ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวดี ๆ นะคะ ได้ความรู้ด้วย
ตอบลบขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาเยี่ยมบ้านอีสานพันทาง ไว้โอกาสหน้าจะนำเรื่องราวน่าสนใจใหม่ ๆ มาแบ่งปันอีกนะคะ
ลบ