จดหมายจากแม่

 ต่อจาก : บทความในใจส่งให้แม่ 

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ บทความนี้มาตามสัญญาค่ะ  เป็นภาคต่อของบทความที่แล้วที่มีชื่อว่า "บทความในใจส่งให้แม่" ถ้าใครยังไม่ได้อ่านสามารถเข้าไปอ่านได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ


ลิงก์ : บทความในใจส่งให้แม่


บทความที่แล้วปูได้บอกเล่ามุมมองการแสดงความรักต่อแม่ไปแล้วว่าปูในฐานะคนบ้านนอกรู้สึกอย่างไร  แสดงออกแบบไหน  หลาย ๆ คนคงจะมีความคล้ายคลึงกันกับปู


มาบทความนี้ปูจะขอพูดในมุมมองของแม่ค่ะ ด้วยวัยที่อายุค่อนไปทางเลข 40 แล้วสำหรับบางเรื่องก็ถือว่าไม่มาก  แต่ถ้าจะต้องมาเป็นแม่ในสังคมไทยเรา รวมถึงสภาพร่างกายแล้วถือว่าไม่น้อยเลย  เสี่ยงมาก ๆ กับการที่จะมีลูกที่สมบูรณ์แข็งแรง  รวมถึงสภาพร่างกายของเราที่กว่าจะต้องเลี้ยงเขาให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น  จะต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่  ทุกอย่างมันช่างเป็นเหตุเป็นผลกันไปหมด  


แต่ก็อย่างว่าเมื่อเราแต่งงานแล้ว  การที่จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างในฝัน  ก็จะต้องมีพ่อแม่ลูก  หลายบ้านปลูกฝังกันมาแบบนี้  มีลูกไว้เลี้ยงดูเรายามแก่เฒ่า  มีลูกไว้สืบทอดตระกูล  แต่ปัจจุบันก็อย่างที่เห็น  หลายคนเลือกที่จะไม่มีคู่เลย  หรือบางคู่ก็เลือกที่จะไม่มีลูกเลย  แบบนั้นก็มี  จะเป็นเพราะสาเหตุอะไรนั้น  แต่ละคนเขาก็มีเหตุผลที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว  อย่างน้อยก็ช่วงเวลานั้น

สำหรับแม่การได้มีลูกคือการได้รับพรวิเศษหรือการได้ของขวัญล้ำค่าอย่างหนึ่งในชีวิต  เพราะลูกทำให้ความหมายของคำว่าแม่มันชัดเจนยิ่งขึ้น  ทุกความห่วงใย  ทุกความรักที่เรามีให้ลูกตั้งแต่เขาอยู่ในท้อง  ความรู้สึกนี้ทำให้แม่คิดถึงยายของลูกตลอด  ความรักแบบนี้หนอที่แม่มีให้เรา  แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของแม่ตอนอุ้มท้อง  กับตอนที่ยายอุ้มท้องแม่มันต่างกันมาก แต่ยายก็อดทนได้  เลี้ยงดูแม่จนเติบใหญ่ขึ้นมาได้ 


นอกจากลูกจะทำให้แม่เข้าใจความเป็นแม่ได้อย่างลึกซึ้งแล้ว  ลูกยังให้ความอบอุ่นกับแม่ได้อย่างมหัศจรรย์  แม่ไม่รู้หรอกว่าคุณแม่ท่านอื่นเป็นไหม  แต่สำหรับแม่แล้วเวลาได้กอดลูก  ได้ให้นมลูกถึงแม้จะเพิ่งคลอด  ตัวเล็กนิดเดียว  ลูกนี่แหละทำให้แม่มีความสุขมากมายเหลือเกิน  มันเป็นความอบอุ่นในหัวจิตหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

ประสบการณ์คุณแม่มือใหม่ดูจะตื่นเต้นไปเสียทุกอย่าง  นับตั้งแต่ได้เห็นลูกถ่ายท้องก็เรียกพ่อมาดู  จะจับแข้งจับขาก็เก้ ๆ กัง ๆ กลัวกระดูกลูกจะหัก  คำพูดที่ว่า "หัวเท่ากำปั้น" แม่ก็เข้าใจได้ในวันที่ลูกเกิดนี่แหละ  เพราะลูกหัวเท่ากำปั้นแม่จริง ๆ ทุกอย่างเล็กมาก  ทำอะไรแม่ต้องคอยระวังไปหมด  จำได้ครั้งแรกอาบน้ำให้ลูก  สีปากลูกออกสีคล้ำก็แอบตกใจ  คงจะหนาวมากร้องให้ใหญ่เลย  กว่าจะชินมือและอาบน้ำให้ลูกได้คล่องแคล่วก็ใช้เวลาพอสมควร  


สิ่งที่ลูกมอบให้แม่อีกอย่างหนึ่งคือบทเรียน  แม่ต้องเรียนรู้ทุกอย่างเพื่อที่จะดูแลลูกให้ดีที่สุด เท่าที่แม่จะทำได้  ไม่ว่าจะดูแลเรื่องของจิตใจและดูแลเรื่องสุขภาพร่างกาย  ลูกทำให้แม่ได้เรียนรู้ในการควบคุมจิตใจตัวเอง  เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้  เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง  และที่สำคัญลูกนี่แหละที่ทำให้แม่เข้าใจถ่องแท้ว่าการที่เราจะช่วยเหลือผู้อื่นได้นั้น  เราต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ก่อน  จะเป็นจิตใจหรือร่างกายก็ดี 

 

เวลาผ่านไปลูกก็โตตามวัย แนวทางและวิธีการเลี้ยงลูกก็เปลี่ยนไปด้วย  จากที่ได้ฟังคุณแม่หลาย ๆ ท่านนั้น  ลูกแต่ละคนก็จะต้องใช้วิธีการเลี้ยงดูต่างกัน  ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยของลูกแต่ละคน  คงไม่ใช่เพราะแม่รักลูกไม่เท่ากัน  นี่ขนาดครอบครัวเดียวกัน  ถ้าต่างครอบครัวแล้วไม่ต้องพูดถึง  อาจจะมีความคล้ายคลึงบ้าง  ประสบการณ์บางอย่างสามารถปรับใช้กันได้  แต่จะยกมาใช้เลยนั้นเห็นจะยากอยู่  เพราะแม่ลองมาแล้ว  บางอย่างก็ได้ผลบางอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่คิด

  

ลูกของแม่ในแต่ละปีพัฒนาการก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนชอบเล่นกับแม่  ตอนนี้ชอบเล่นกับพ่อ เพราะชอบแข่งรถพ่อพาเล่นได้เล่นสนุก  บางทีก็แอบมีงอนเพราะเริ่มติดลูก  แต่ลูกไม่ติดแม่แล้ว  นี่แหละความเป็นแม่ถึงจะรักลูกมากแค่ไหน  ก็เจ็บได้ไข้เป็นถ้าบอกว่าน้อยใจคือน้อยใจจริง ๆ นะ  ถ้าลูกทำให้แม่โมโหบอกไม่ฟัง  แม่ก็โมโหจริง ๆ  


เลยอยากจะบอกลูกว่า  แม่ก็คือคนมีกิเลสเหมือนกัน  ต้องคอยขัดเกลาและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกอยู่  อย่าได้คิดว่าแม่คือนางฟ้าอะไรแม่ก็ต้องยอม  คิดแบบนี้ไม่ได้  แต่ด้วยความที่เป็นแม่ทุกอารมณ์ลบ ๆ ที่มันเกิดขึ้น  แม่ก็จะพยายามจัดการกับมัน  และเรียนรู้ที่จะอยู่กับทุกปัญหาของลูกให้ได้

 

สิ่งสำคัญที่แม่อยากจะบอกกับลูกในวันที่ลูกโตขึ้น  และพร้อมที่จะรับฟังความรู้สึกของแม่ได้  แม่อยากจะบอกลูกว่า 

  • วันไหนที่แม่เผลอควบคุมความโกรธไม่ได้  ลูกจงรู้ไว้ว่านั่น  แม่ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนนึง  ที่มีสิ่งเร้ามากระทบต่ออารมณ์โกรธของแม่  ไม่ได้หมายความว่าแม่รักลูกน้อยลง


  • วันไหนที่แม่เผลอทำอะไรที่ลูกไม่พอใจ  ได้โปรดอย่ารีรอที่จะมานั่งบอกให้แม่รับรู้  มาหาทางออกร่วมกัน  อย่าเสียเวลาทิ้งไปโดยที่เราไม่ได้แก้ไขปัญหานั้น


  • วันใดที่ลูกมีปัญหา  จะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่  ได้โปรดให้แม่เป็นคนแรกได้ไหมที่เข้าไปบรรเทาทุกข์กายทุกข์ใจของลูก  ไม่อย่างนั้นแม่คงจะเจ็บปวดใจมาก  ถ้ามารู้ทีหลังว่าช่วงนั้นลูกมีความทุกข์แล้วแม่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะไปรับรู้เลย


  • ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความสำเร็จ หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ลูกกำลังก้าวเดินอยู่ก็ตาม  แม่พร้อมที่จะรับฟังและอยู่เคียงข้างลูกเสมอ  โดยเฉพาะช่วงเวลาแห่งความทุกข์


ความหมายของคำว่า "ลูก" และ "แม่" ตอนนี้แม่เข้าใจถ่องแท้แล้ว  ตอนนี้แม่ชัดเจนมากขึ้นการตอบแทนค่าน้ำนมของยายที่ให้แม่  ด้วยความรักและความเข้าใจหัวอกความเป็นแม่ด้วยกัน  การดูแลลูกด้วยความรักและความเข้าใจในความต้องการของลูก  


ท้ายนี้แม่อยากจะบอกลูกว่าแม่รักลูกเหลือเกิน  และขอบคุณที่ลูกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในชีวิต  แม่สัญญาว่าจะดูแลลูกทั้งกายและใจ  ให้ลูกได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีทั้งต่อตัวเองและสังคม  และมีความสุขที่สุดทั้งกายและใจ  เท่าที่แม่คนนี้จะทำได้


แม่รักลูก

9 / 08 / 63 


(ภาพประกอบทั้งหมดจากผู้เขียน)


ติดตามผลงานอื่น ๆ ของผู้เขียนได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้คะ


📱 ช่องทางการติดต่อ 📲


Line: Siriwanna9

Facebook: Siriwanna W. Pavese



📑 ติดตามผลงานได้ที่ 📑



📝Blockdit 📝



📷 YouTube 📷




ความคิดเห็น

  1. เขียนดีอ่ะปู ผู้หญิงที่ได้เป็นแม่คือที่สุดของผู้หญิงแล้วค่ะ เพราะเราคือ แม่

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากค่ะพี่แมว ในวันที่เห็นหน้าลูกครั้งแรก เป็นอีกหนึ่งวันที่รอคอยในชีวิตเลยค่ะ
      สุขสันต์วันแม่นะคะ

      ลบ
  2. เขียนดีอ่ะปู ผู้หญิงที่ได้เป็นแม่คือที่สุดของผู้หญิงแล้วค่ะ เพราะเราคือ แม่

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

Amazon Shopping

บทความที่ได้รับความนิยม